เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2567 นางสาวศศิธร พลัตถเดช ที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผนงาน รักษาการรองเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในฐานะเจ้าหน้าที่อาวุโสของไทยประจำแผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่าย อินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย (Indonesia-Malaysia-Thailand Growth Triangle: IMT-GT) เข้าร่วมการประชุมวางแผนยุทธศาสตร์ ครั้งที่ 18 (18th Strategic Planning Meeting) แผนงาน IMT-GT ณ เมืองปุตราจายา มาเลเซีย ร่วมกับเจ้าหน้าที่อาวุโสจากมาเลเซียและอินโดนีเซีย ได้แก่ ดาโต๊ะ ดร. ซูนิก้า บินตี มูฮัมหมัด รองอธิบดีด้านนโยบาย กระทรวงเศรษฐกิจ ประธานการประชุมฯ ดร. อีดี้ ปรีโอ ปามปูดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงประสานงานด้านเศรษฐกิจ พร้อมด้วยผู้แทนจากสถานเอกอัครราชทูตอินโดนีเซียประจำมาเลเซีย ผู้แทนธนาคารพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank: ADB) ผู้บริหารศูนย์ประสานความร่วมมือแผนงาน IMT-GT (Centre of IMT-GT Subregional Cooperation: CIMT) ในฐานะฝ่ายเลขานุการแผนงาน IMT-GT และผู้เข้าร่วมประชุมจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนจาก 3 ประเทศสมาชิกแผนงาน IMT-GT
ในการนี้ เจ้าหน้าที่อาวุโสของทั้ง 3 ประเทศได้รับทราบผลการดำเนินงานและความก้าวหน้าของแผนงาน IMT-GT ภายใต้แผนดำเนินงานระยะ 5 ปี พ.ศ. 2565-2569 (Implementation Blueprint 2022-2026: IB 2022-2026) รวมถึงรายงานความก้าวหน้าการดำเนินงานของแต่ละสาขาความร่วมมือภายใต้แผนงาน IMT-GT ดังนี้
1. สาขาการเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตร มีความคืบหน้าสำคัญคือ การลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยน้ำมันปาล์ม ซึ่งคาดการณ์ว่าจะมีการลงนามในห้วงการประชุมระดับผู้นำ ครั้งที่ 16 แผนงาน IMT-GT ในเดือนพฤษภาคม 2568 ณ มาเลเซีย และมีการดำเนินการต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือในระดับภูมิภาค ยกระดับความมั่นคงทางอาหาร และส่งเสริมการทำเกษตรยั่งยืนผ่านเทคโนโลยีและนวัตกรรม อาทิ การอบรมระดับภูมิภาคในกลุ่มเกษตรกรรุ่นเยาว์ในกรอบ IMT-GT
2. สาขาการท่องเที่ยว มีความคืบหน้าในการดำเนินโครงการและกิจกรรมภายใต้แคมเปญปีแห่งการท่องเที่ยว IMT-GT พ.ศ. 2566-2568 อาทิ การประชาสัมพันธ์ IMT-GT ในฐานะจุดหมายปลายทางหนึ่งเดียว การท่องเที่ยวทางเรือหรือขับรถท่องเที่ยวข้ามพรมแดน รวมถึงหารือเรื่องการเพิ่มความร่วมมือกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียท้องถิ่นและคณะทำงานอื่น ๆ ให้มากขึ้นเพื่อสนับสนุนความครอบคลุมและยั่งยืน
3. สาขาผลิตภัณฑ์และบริการฮาลาล มีการดำเนินการสำคัญต่าง ๆ เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้ระบบนิเวศ ส่งเสริมองค์ความรู้ด้านฮาลาล และเร่งรัดกระบวนการเกี่ยวกับเครื่องหมายฮาลาล ผ่านการดำเนินการต่าง ๆ อาทิ การฝึกอบรมแบ่งปันความรู้ ฮาลาลบล็อกเชน และเส้นทางฮาลาล รวมถึงกล่าวถึงความร่วมมือในอนาคตเพื่อลดปัญหาอุปสรรคทางการค้าต่อไป
4. สาขาความเชื่อมโยงด้านคมนาคมขนส่ง ดำเนินการขับเคลื่อนผ่านโครงการต่าง ๆ ที่เห็นผลเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะโครงการสะพานข้ามแม่น้ำโก-ลก แห่งที่ 2 (สุไหงโก-ลก-รันเตาปันยัง) ซึ่งเป็นโครงการความสำคัญสูง (Flagship Project) อีกทั้งยังเห็นพ้องในการจัดประชุมผู้ประกอบการสายการบินและสนามบินเป็นกิจกรรมคู่ขนานกับการประชุมคณะทำงานฯ พร้อมทั้งจะร่วมสนับสนุนโครงการการขนส่งสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของเครือข่ายมหาวิทยาลัย (UNINET) แผนงาน IMT-GT
5. สาขาการเปลี่ยนผ่านด้านดิจิทัล มีความพยายามมุ่งพัฒนาสภาพแวดล้อมที่สนับสนุนการทำธุรกิจผ่านทางโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลและการพัฒนาทักษะดิจิทัลเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ รวมถึงมีข้อเสนอให้ร่วมมือกับแพลตฟอร์ม E-Commerce ขนาดใหญ่ที่มีอยู่ก่อนแล้ว เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการค้าในภูมิภาคต่อไป
6. สาขาการค้าและการลงทุน เห็นพ้องในการลงนามกรอบความร่วมมือ (Framework of Cooperation: FoC) เพื่อการเคลื่อนย้ายสินค้าและบริการข้ามพรมแดน ในห้วงการประชุมระดับผู้นำครั้งที่ 16 แผนงาน IMT-GT นอกจากนี้ คณะทำงานขับเคลื่อนโครงการเมืองยางพาราและความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมยางยังอยู่ในระหว่างจัดทำข้อเสนอเพื่อให้ทุนสนับสนุนการศึกษาวิเคราะห์ความต้องการของภาคธุรกิจในกลุ่มประเทศ IMT-GT
7. สาขาการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ให้ความสำคัญกับการฝึกอบรมด้านเทคนิคและอาชีวศึกษา (TVET) และหาบุคลากรที่มีศักยภาพในสาขาต่าง ๆ อีกทั้งยังมุ่งเน้นการสร้างความเข้มแข็งในความร่วมมือกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลายภาคส่วนเพื่อพัฒนาโครงการ อาทิ ภาคธุรกิจ JCB และ UNINET โดยเฉพาะความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ในการจัดประชุมคณะทำงานฯ
8. สาขาสิ่งแวดล้อม มีการดำเนินการที่เป็นรูปธรรม อาทิ ความริเริ่มเศรษฐกิจสีน้ำเงินและจัดการน้ำมันรั่วไหลในทะเล และการจัดการของเสีย รวมถึงการริเริ่มให้มีความร่วมมือกับภาคธุรกิจมากขึ้น อีกทั้งคณะทำงานฯ ยังสนับสนุนการดำเนินการของ CIMT เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือกับ ADB และ UNESCAP รวมถึงแสวงหาหุ้นส่วนการพัฒนาใหม่ ๆ
9. ที่ประชุมยังได้รับทราบความคืบหน้าของความร่วมมือของสภาธุรกิจ IMT-GT และ UNINET ที่มุ่งทำงานร่วมกับคณะทำงานในสาขาความร่วมมือต่าง ๆ เพื่อริเริ่มและผลักดันแผนงาน/โครงการร่วมกันให้เกิดผลเป็นรูปธรรมเพื่อขับเคลื่อนแผนงาน IMT-GT ต่อไป
นอกจากนี้ ผู้แทน ADB ในฐานะหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาของแผนงาน IMT-GT ยังได้รายงานความร่วมมือร่วมกับแผนงาน IMT-GT อาทิ ความริเริ่มด้านเมืองสีเขียว เศรษฐกิจสีน้ำเงิน รวมถึงความร่วมมือกับ CIMT เพื่อจัดการประชุมเชิงปฏิบัติการในการสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับระเบียงเศรษฐกิจ (ECs) และเขตเศรษฐกิจพิเศษ (SEZs) และโครงการฝึกอบรมเพื่อสร้างเสริมศักยภาพให้เจ้าหน้าที่แผนงาน IMT-GT
ทั้งนี้ ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมวางแผนยุทธศาสตร์ ครั้งที่ 19 ในปี 2569 รวมถึงเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับรัฐมนตรีและการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง แผนงาน IMT-GT ในช่วงเดือนกันยายน ปี 2568
กองยุทธศาสตร์และประสานความร่วมมือระหว่างประเทศ
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ภาพ: NCER Malaysia