ตามที่ องค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) ได้เชิญหัวหน้าคณะผู้แทนไทย ศาสตราจารย์กิตติคุณ บวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะผู้แทนไทย ประกอบด้วย นางพงษ์สวาท นีละโยธิน ปลัดกระทรวงยุติธรรม และนายยอดฉัตร ตสาริกา ผู้อำนวยการกองกฎหมาย รักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านกฎหมาย และผู้บริหารสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย (TIJ) เข้าร่วมการประชุม OECD Global Roundtable on Equal Access to Justice ประจำปี ค.ศ. 2025 ณ กรุงมาดริด ประเทศสเปน ระหว่างวันที่ 12 -14 พฤศจิกายน 2568 โดยการประชุมในครั้งนี้ องค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) ร่วมกับรัฐบาลสเปน เป็นเจ้าภาพในการจัดประชุมฯ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแลกเปลี่ยนยุทธศาสตร์การพัฒนาด้านการปฏิรูปหลักนิติธรรม ธรรมาภิบาลภาครัฐ และกระบวนการยุติธรรมที่ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง โดยมีผู้แทนจาก 50 ประเทศ รวมทั้งองค์กรระหว่างประเทศ
การประชุมครั้งนี้ ศาสตราจารย์กิตติคุณ บวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถ้อยแถลงในเวทีผู้นำระดับสูง (Justice Leaders’ Dialogue) Roundtable ในหัวข้อ Justice system at a crossroads challenges and opportunities in a changing world โดยได้เน้นย้ำว่าประเทศไทยมุ่งยกระดับหลักนิติธรรม ผ่านการพัฒนากรอบนโยบายหลักนิติธรรม และเพื่อตอบสนองต่อความท้าทายในด้านเศรษฐกิจ สังคม และเทคโนโลยีที่เป็นปรากฏการณ์ที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ในโลกปัจจุบัน ประเทศไทยจะมุ่งขับเคลื่อนการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมอย่างต่อเนื่อง ทำให้การยุติธรรมเป็นบริการสาธารณะ (justice as a public service) และยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง (people-centered justice) ซึ่งสอดคล้องกับมาตรฐานของ OECD และเป็นการเสริมสร้างความเชื่อมั่นของประชาชน โดยร่วมมือกับภาคีเครือข่ายในประเทศ และระหว่างประเทศ อาทิ OECD และ The World Justice Project (WJP) นอกจากนี้ ประเทศไทยได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) สถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย (TIJ) และสถาบันพระปกเกล้า เป็นหน่วยงานประสานงานหลัก (National Focal Point) ให้ทำงานร่วมกับ OECD โดยเฉพาะส่วนงานที่เกี่ยวข้องกับคณะกรรมการธรรมาภิบาลของ OECD (Public Governance Directorate)
นอกจากนี้ ศาสตราจารย์พิเศษ ดร. กิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ประธานกรรมการ TIJ ได้เข้าร่วมบรรยายใน หัวข้อ Redesigning Justice Services to Put People at the Centre วันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568 ระหว่างร่วมงานประชุมเดียวกันนี้ โดยกล่าวถึงการออกแบบการออกแบบการให้บริการความยุติธรรมโดยมีคนเป็นศูนย์กลาง โดยกล่าวถึงประสบการณ์ที่ผ่านมาสามบทเรียน ดังนี้
1. การออกแบบความยุติธรรมที่ทำให้คนเข้าถึงได้ต้องเริ่มจากความต้องการของผู้คน ซึ่งต้องเริ่มจากการรับฟัง การทำความเข้าใจผู้อื่น (empathy) เป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิรูปที่ประสบผลสำเร็จ 2. การปฏิรูปนั้นต้องออกแบบร่วมกัน เพราะ “ชุมชนไม่ได้เป็นเพียงแค่ส่วนประกอบ แต่คือรากฐานของความยุติธรรม” เมื่อความยุติธรรมนั้นถูกสร้างจากความร่วมมือของผู้คน ความยุติธรรมนั้นจะมีความน่าเชื่อถือและมีความยั่งยืนยิ่งขึ้น และ 3. การปฏิรูประบบจะทำได้โดยการเปลี่ยนทัศนคติและสร้างความเป็นเจ้าของความยุติธรรม ประธานกรรมการ TIJ ยังชี้ให้เห็นว่าการเข้าใจผู้คน การทำงานร่วมกัน และปลูกฝังความเข้าใจผู้คนเพื่อออกแบบระบบยุติธรรม สะท้อนถึงแนวคิดหลักของข้อเสนอแนะเพื่อการเข้าถึงความยุติธรรมของ OECD ที่ว่าเมื่อความยุติธรรมกลายเป็นเรื่องสามัญ เข้าถึงได้ และเท่าเทียม ความยุติธรรมจึงไม่ได้มีบทบาทเพียงแค่แก้ไขข้อขัดแย้ง แต่นำไปสู่สังคมที่ครอบคลุม เสริมสร้างความเชื่อมั่นและความเจริญรุ่งเรือง ความยุติธรรมจึงเป็นทั้งบริการของรัฐและสาธารณประโยชน์เพื่อความสงบสุขของประชาชน
อีกทั้ง ดร. พิเศษ สอาดเย็น ผู้อำนวยการ TIJ ยังได้ร่วมนำเสนอในหัวข้อ Investing in Justice โดยเน้นย้ำถึงความร่วมมือระหว่าง TIJ และ OECD ในการจัดทำโครงการศึกษาต้นทุนทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจากอาชญากรรมและกระบวนการยุติธรรมในประเทศไทยช่วยให้ประเทศไทยมีเป้าหมายชัดเจนยิ่งขึ้นในการลงทุนเพื่อสร้างหลักนิติธรรม ด้วยตระหนักว่ากระบวนการยุติธรรมที่ไม่ยุติธรรมนั้นส่งผลกระทบต่อประชาชน โดยเฉพาะในด้านของทุนชีวิต ซึ่งสามารถคิดเป็นมูลค่าได้สูงถึง 9.72 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น 5.6% ของจีดีพีของประเทศ และชี้ให้เห็นว่าการลงทุนในกระบวนการยุติธรรมที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง เน้นที่การฟื้นฟูมากกว่าการลงโทษผู้กระทำผิด เป็นแนวทางสำคัญที่จะช่วยให้สังคมพัฒนาไปได้อย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ การประชุมฯ ครั้งนี้ เป็นจุดเริ่มต้นที่นำมาซึ่งแผนการเสนอไทยเพื่อเข้าเป็นเจ้าภาพในการจัดประชุม OECD Global Roundtable on Equal Access to Justice ประจำปี ค.ศ. 2027 ซึ่งการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพในการจัดประชุมฯ ในปี ค.ศ. 2027 แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในเจตจำนงของไทยในการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมให้มี ความโปร่งใส ทันสมัย และประชาชนเข้าถึงได้โดยง่าย นอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นถึงความพร้อมในกระบวนการเข้าเป็นสมาชิก ผ่านการพัฒนาโครงสร้างทางกฎหมาย โดยกระทรวงการต่างประเทศได้รับมอบหมายให้จัดทำหนังสือแสดงเจตจำนงการเป็นเจ้าภาพจัดประชุม OECD Global Roundtable on Equal Access to Justice ปี ค.ศ. 2027 เพื่อส่งมอบให้แก่เลขาธิการ OECD ในวันที่ 8 ธันวาคม 2568 และกระทรวงยุติธรรม รวมทั้งสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย เป็นหน่วยงานรับผิดชอบในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดประชุม OECD Global Roundtable on Equal Access to Justice ปี ค.ศ. 2027 ของประเทศไทยโดยเน้นบทบาทการมีส่วนร่วมจากภาคเอกชน และภาคประชาสังคมในการประชุมดังกล่าวด้วย
ที่มา: สถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย. (2568). TIJ ร่วมคณะรองนายกรัฐมนตรี เข้าประชุม OECD Global Roundtable on Equal Access to Justice ที่กรุงมาดริด ประเทศสเปน มุ่งผลักดันยกระดับนิติธรรมไทยเพื่อเข้าเป็นประเทศสมาชิก OECD. เข้าถึงได้จาก https://www.tijthailand.org/what-we-do/detail/oecd-global-roundtable-on-equal-access-to-justice-2025
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมาดริด. (2568). รองนายกรัฐมนตรีและคณะเข้าร่วมการประชุม OECD Global Roundtable on Equal Access to Justice. เข้าถึงได้จาก https://madrid.thaiembassy.org/th/content/oecd-global-roundtable-madrid-nov-2025-th?cate=5d7ce71215e39c3e04000537
สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี. (2568). กระทรวงยุติธรรมเข้าร่วมประชุมโต๊ะกลมขององค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนาในหัวข้อด้านการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมอย่างเสมอภาค ครั้งที่ 10 (10th OECD Global Roundtable on Equal Access to Justice) ณ กรุงมาดริด ราชอาณาจักรสเปน. เข้าถึงได้จาก https://www.thaigov.go.th/th/news/102271
สำนักรองนายกรัฐมนตรี (นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ). (2568). บันทึกข้อความจาก สำนักรองนายกรัฐมนตรี ถึงเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เรื่อง รายงานผลการเข้าร่วมการประชุม OECD Global Roundtable on Equal Access to Justice ประจำปี ค.ศ. ๒๐๒๕ . เข้าถึงได้จากhttps://resolution.soc.go.th/PDF_UPLOAD/2568/P_414811_6.pdf
รูปภาพ: สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมาดริด, สถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย



