OECD

สำนักงาน ป.ป.ช. ยื่นหนังสือแสดงเจตจำนงเพื่อเริ่มกระบวนการการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการต่อต้านการให้สินบน (Anti-Bribery Convention) ของ OECD

เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2568 นายภัทรศักดิ์ วรรณแสง กรรมการ ป.ป.ช. ได้เป็นผู้แทนในการยื่นหนังสือแสดงเจตจำนงเพื่อเริ่มกระบวนการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการต่อต้านการให้สินบนแก่เจ้าหน้าที่รัฐต่างประเทศในการทำธุรกรรมทางธรุกิจระหว่างประเทศ (OECD Anti-Bribery Convention) ต่อนายฟรานติเช็ก รูซิกกา (Mr. František Ružička) รองเลขาธิการองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (Organisation for Economic Co-operation and Development: OECD) ณ ทำเนียบรัฐบาล การยื่นหนังสือดังกล่าว ถือเป็นการยกระดับสถานะให้ประเทศไทยเป็น “ประเทศผู้สมัครที่อยู่ในกระบวนการเข้าเป็นสมาชิก” (Accession Candidate Country) ในคณะทำงานว่าด้วยการต่อต้านการให้สินบน ซึ่งถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญก่อนจะไปสู่การเป็นสมาชิก OECD อย่างเต็มรูปแบบ พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรีได้ส่งมอบบันทึกเบื้องต้น (Initial Memorandum: IM) ของประเทศไทยในการเข้าเป็นสมาชิก OECD ปัจจุบันประเทศไทยมีสถานะเป็นประเทศผู้สมัครซึ่งอยู่ในกระบวนการเข้าเป็นสมาชิก OECD (Accession Candidate Country)

สำนักงาน ป.ป.ช. เป็นหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบการดำเนินการในกรอบคณะทำงานว่าด้วยการต่อต้านการให้สินบนในการทำธุรกรรมทางธุรกิจระหว่างประเทศ (OECD Working Group on Bribery in International Business Transactions) โดยมี OECD Anti-Bribery Convention เป็นตราสารหลักที่ต้องปฏิบัติตาม ประเทศไทยมีการแต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการต่อต้านการให้สินบนของ OECD โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช. การร่วมกันขับเคลื่อนและผลักดันการแก้ไขปรับปรุงกฎหมาย แนวปฏิบัติของไทยให้สอดคล้องกับมาตรฐาน OECD เพื่อเป็นการยกระดับกฎหมายและสภาพแวดล้อมเพื่อการลงทุนให้มีความโปรงใสและแข่งขันได้อย่างเท่าเทียม โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน อาทิ สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานศาลยุติธรรม กระทรวงการต่างประเทศ กรมสรรพากร และแนวร่วมต่อต้านคอรัปชั่นของภาคเอกชนไทย (CAC) ที่จะนำประเทศไทยไปสู่เป้าหมายในการเป็นภาคีอนุสัญญาฯและการเป็นสมาชิก OECD ต่อไป

อนุสัญญาว่าด้วยการต่อต้านการให้สินบน (OECD Anti-Bribery Convention) ถือเป็นตราสารฉบับแรกและฉบับเดียวที่มุ่งจัดการปัญหาการติดสินบนแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐต่างประเทศในการทำธุรกรรมทางธุรกิจระหว่างประเทศ การกำหนดมาตราฐานนี้มีข้อผูกพันธ์ทางกฎหมายซึ่งทำให้การติดสินบนเจ้าหน้าที่ภาครัฐต่างประเทศเป็นคดีอาญา อนุสัญญาฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการสร้างความเท่าเทียมและยุติธรรมในการแข่งขันทางการค้าระหว่างประเทศ การเข้าร่วมภาคีอนุสัญญาฯ ฉบับนี้ จึงเป็นการสร้างความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติ การเพิ่มขึ้นของดัชนีการรับรู้การทุจริต (CPI) การมีระบบนิเวศทางธุรกิจที่โปร่งใส ซึ่งจะส่งดีต่อเศรษฐกิจของประเทศอย่างยั่งยืนต่อไป


ที่มา: สำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ . (2568). ป.ป.ช. ยื่นหนังสือแสดงเจตจำนงเพื่อเริ่มกระบวนการการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการต่อต้านการให้สินบน (Anti-Bribery Convention) ของ OECD . เข้าถึงได้จาก https://www.nacc.go.th/categorydetail/20180831184638361/20251208212125?

กรมประชาสัมพันธ์. (2568). ก้าวสำคัญของไทยในเวทีโลก: ผนึกกำลัง OECD ปราบปรามสินบนข้ามชาติ ยกระดับความโปร่งใสสู่มาตรฐานสากล. เข้าถึงได้จาก https://www.prd.go.th/th/content/category/detail/id/31/iid/452661

รูปภาพ: สำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ, ทำเนียบรัฐบาล