Thailand Country Programme Phase II
ข่าวความเคลื่อนไหวที่สําคัญ
สภาพัฒน์หารือหน่วยงานรัฐ วางแผนการขับเคลื่อนกระบวนการเข้าเป็นสมาชิก OECD ปี 2568
เมื่อวันศุกร์ที่ 20 ธันวาคม 2567 สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้จัดการประชุมหารือเกี่ยวกับการเข้าเป็นสมาชิก OECD ของไทย เพื่อทำความเข้าใจกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินการตามกระบวนการเข้าเป็นสมาชิก OECD โดยเฉพาะในช่วงปี 2568ที่ไทยจะต้องเริ่มจัดทำ Initial Memorandum (IM) ซึ่งเป็นเอกสารการประเมินตนเองในเบื้องต้นและเป็นขั้นตอนแรกของกระบวนการเข้าเป็นสมาชิก โดยมี นายธัชไท กีรติพงค์ไพบูลย์ ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์และประสานความร่วมมือระหว่างประเทศ เป็นประธานการประชุม และมีผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกว่า 130 คน เข้าร่วม ในโอกาสนี้ ประธานฯ ได้แจ้งภาพรวมความก้าวหน้าการดำเนินการของไทย โดยเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2567 นายกรัฐมนตรีได้ลงนามคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการกำกับการดำเนินงานในการเข้าเป็นสมาชิก OECD ของประเทศไทย โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และมี สศช. กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (สคก.) เป็นฝ่ายเลขานุการ สำหรับการดำเนินการร่วมกับ OECD นั้น ปัจจุบันไทยมีสถานะเป็นประเทศผู้สมัครที่อยู่ในกระบวนการเข้าเป็นสมาชิก (accession candidate country) ซึ่งสามารถเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการ OECD […]
สศช. กล่าวบรรยายพิเศษรายงานการดำเนินการของประเทศไทยเพื่อเข้าสู่กระบวนการเข้าเป็นสมาชิก OECD ในการประชุมคณะอนุกรรมการกฎระเบียบการค้าและพหุภาคี สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2567 ดร.ภก.นิลสุวรรณ ลีลารัศมี รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการกฎระเบียบการค้าและพหุภาคี ครั้งที่ 3/2567 โดยผู้แทนสานักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) ได้รับเชิญให้กล่าวบรรยายพิเศษภายใต้หัวข้อ “การดาเนินการของประเทศไทยเพื่อเข้าสู่กระบวนการเข้าเป็นสมาชิก OECD และแนวทางการเตรียมความพร้อมของประเทศไทย” แก่อนุกรรมการกฎระเบียบการค้าและพหุภาคี ผู้แทนภาคอุตสาหกรรม และผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐที่เข้าร่วมการประชุม ดร.ภก.นิลสุวรรณ ลีลารัศมี รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวถึงสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศของไทยที่มีการเปลี่ยนแปลง เช่น การเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาอีกครั้งของนายโดนัลด์ ทรัมป์ การเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีไทย-สหภาพยุโรป รวมถึงการเข้าเป็นสมาชิก OECD ของไทย ซึ่งจะนาไปสู่ความท้าทายและโอกาสใหม่ ๆ ของภาคธุรกิจไทย ดังนั้น ไทยจึงต้องมีการเตรียมการล่วงหน้าเพื่อตอบรับผลกระทบและการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น ซึ่งรวมถึงการประสานงานกับภาคส่วนต่าง ๆ ทั้ง ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน เพื่อให้การดาเนินงานเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ นางสาลินี ผลประไพ รองอธิบดีกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ เน้นย้าว่าการเข้าเป็นสมาชิก OECD ไม่ใช่การมุ่งเน้นเพื่อเข้าเป็นสมาชิกได้อย่างรวดเร็ว แต่เป็นการการปรับปรุงมาตรฐานและผลักดันการปฏิรูปภายในประเทศให้เกิดประโยชน์รอบด้าน โดยทางกระทรวงการต่างประเทศมองว่ากระบวนการเข้าเป็นสมาชิกนี้จะเป็นผลดีต่อการพัฒนาเศรษฐกิจในระยะยาวของไทย ผ่านการขยายความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ การยกระดับมาตรฐานภาครัฐและภาคธุรกิจ […]
กระทรวงศึกษาธิการจัดการประชุมคณะทางานขับเคลื่อนการดาเนินงานด้านการศึกษาและพัฒนาทักษะเพื่อสนับสนุนกระบวนการเข้าเป็นสมาชิก OECD ของประเทศไทย
เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2567 นายพิเชฐ โพธิ์ภักดี รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานเปิดการประชุมคณะทางานขับเคลื่อนการดาเนินงานด้านการศึกษาและพัฒนาทักษะเพื่อสนับสนุนกระบวนการเข้าเป็นสมาชิก OECD ของประเทศไทย โดยมีผู้แทนจากกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กระทรวงแรงงาน (รง.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) สานักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย เข้าร่วมการประชุมเพื่อรับฟังและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการขับเคลื่อนการเข้าเป็นสมาชิก OECD โดยเฉพาะการดาเนินงานด้านการศึกษาที่ ศธ. มีความร่วมมือกับ OECD มาอย่างต่อเนื่อง นายพิเชฐ โพธิ์ภักดี รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงความสาคัญของการพัฒนาและยกระดับมาตรฐานการศึกษาไทย ทั้งระบบการศึกษา ทักษะการเรียนของนักเรียน และทักษะการสอนของครู ซึ่งที่ผ่านมา ประเทศไทยได้นามาตรฐานของ OECD มาใช้ในการปรับปรุงและพัฒนาการเรียนการสอน เช่น โปรแกรมประเมินสมรรถนะนักเรียนมาตรฐานสากล (PISA) ที่เน้นการประเมินนักเรียนเกี่ยวกับการใช้ความรู้และทักษะในชีวิตจริง เพื่อนาไปใช้ในการปรับปรุงนโยบายและหลักสูตรการศึกษาให้เหมาะสม นอกจากนี้ รองปลัดฯ ยังเน้นย้าว่าการเข้าเป็นสมาชิก OECD จะนามาซึ่งองค์ความรู้เพื่อพัฒนาแผนการศึกษาไทย โดย ศธ. พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนความร่วมมือกับ OECD และจาเป็นต้องได้รับการสนับสนุนและความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง […]
ที่มาและความสำคัญ
เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 คณะรัฐมนตรีได้มีมติ รับทราบรายงานความก้าวหน้าการดำเนิน โครงการ Country Programme ระยะที่ 1 ที่สิ้นสุดลงในปี 2564 และได้มอบหมายให้สานักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และจัดทำโครงการภายใต้ Country Programme ระยะที่ 2 ต่อมา สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและกระทรวงการต่างประเทศได้หารือกับ OECD และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และนำไปสู่ข้อสรุปในการสร้างความร่วมมือใน 20 โครงการ ภายใต้ 4 สาขาความร่วมมือ
GOAL
when
why
where
how
สาระสำคัญของโครงการภายใต้ Country programme ระยะที่ 2
การดำเนินโครงการ Country Programme (CP) ระยะที่ 2 เป็นความร่วมมือในระยะเวลา 3 ปี (พ.ศ. 2566- 2569) มีวัตถุประสงค์เพื่อผลักดันให้ไทยเข้าถึงองค์ความรู้และแนวปฏิบัติที่ดีของ OECD ซึ่งจะช่วยพัฒนาและยกระดับแนวทางการพัฒนาและมาตรฐานภายในประเทศของไทยให้ทัดเทียมสากล สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561 – 2580) แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2566 – 2570) และรวมทั้งสอดรับกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals : SDGs)