แผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจ
ในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง 6 ประเทศ
Greater Mekong Subregion Economic Cooperation Program: GMS
ข่าวความเคลื่อนไหวที่สําคัญ


เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2568 สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจ […]
เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2568 สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจแ […]
เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2567 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นาย […]
เมื่อวันที่ 20-22 สิงหาคม 2567 นางสาวศศิธร พลัตถเดช ที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผนงาน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ สศช. ได้เข้าร่วมการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสวาระพิเศษ แผนงานการพัฒนา
เขตเศรษฐกิจสามฝ่าย อินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย (IMT-GT) แผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจใน
อนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง 6 ประเทศ (GMS) และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ณ กรุงจาการ์ตา สาธารณรัฐอินโดนีเซีย พร้อมด้วยผู้แทนจากสำนักงานเลขาธิการอาเซียน ธนาคารพัฒนาเอเชีย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมการประชุมดังกล่าว
เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2567 นายวันฉัตร สุวรรณกิตติ รองเ […]
เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2566 นายวันฉัตร สุวรรณกิตติ รองเลขาธิการสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในฐานะผู้แทนรัฐมนตรีประจำแผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง 6 ประเทศ (GMS) เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมระดับรัฐมนตรีแผนงาน GMS ครั้งที่ 26 (The 26th GMS Ministerial Conference)
วันที่ 8 ธันวาคม 2565 นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ […]
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 9 กันยายน 2564 พลเอก ประยุทธ์ […]
วันที่ 4 พฤศจิกายน 2563 นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่ […]
แผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (Greater Mekong Subregion Economic Cooperation Program: GMS Program) เป็นกรอบความร่วมมือระหว่าง 6 ประเทศในลุ่มแม่น้ำโขง ได้แก่ กัมพูชา สปป.ลาว จีน (มณฑลยูนนาน และเขตปกครองตนเองกวางสีจ้วง) เมียนมา ไทย และเวียดนาม ริเริ่มขึ้นใน พ.ศ. 2535 โดยการผลักดันของ 6 ประเทศดังกล่าวและได้การสนับสนุนจากธนาคารพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank: ADB) เพื่อส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมบนพื้นฐานของความได้เปรียบเชิงเปรียบเทียบของแต่ละประเทศ ปัจจุบันแผนงาน GMS ดำเนินงานอยู่ภายใต้ กรอบยุทธศาสตร์แผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง พ.ศ.2573 (GMS Economic Cooperation Program Strategic Framework 2030) ซึ่งมุ่งพัฒนาไปสู่การเป็นอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงที่มีการบูรณาการ รุ่งเรือง ยั่งยืน และไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
การดำเนินงานของแผนงาน GMS ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ตั้งอยู่บน 3 เสาหลักการพัฒนา หรือหลักการ 3Cs ประกอบด้วย
เน้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพที่ยั่งยืนและยกระดับโครงข่ายเส้นทางคมนาคมขนส่งให้เป็นแนวพื้นที่เศรษฐกิจ (Economic corridors)
อำนวยความสะดวกการเคลื่อนย้ายผู้คนและสินค้าข้าพรมแดน พัฒนาห่วงโซ่การผลิต การเกษตร การท่องเที่ยว และการพัฒนาเมือง
สร้างความเป็นประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันด้วยการส่งเสริมความร่วมมือข้ามพรมแดนด้านสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม รวมถึงส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน
แผนงาน GMS ให้ความสำคัญต่อแนวคิดการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจ (Economic Corridors) ซึ่งเป็นการเชื่อมโยงพื้นที่เศรษฐกิจข้ามพรมแดนเข้าด้วยกันผ่านโครงสร้างพื้นฐาน การสอดประสานกันทางนโยบาย และการพัฒนากฎระเบียบให้เป็นหนึ่งเดียว เพื่อส่งเสริมกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการเคลื่อนย้ายสินค้า บริการ ผู้คน และเงินทุน ในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง โดยมี 3 แนวระเบียงเศรษฐกิจสำคัญ ได้แก่
(1) ระเบียงเศรษฐกิจเหนือ-ใต้ (North-South Economic Corridor: NSEC) เป็นเส้นทางหลักเชื่อมโยงประเทศจีนตอนใต้และ สปป.ลาว เพื่อออกสู่ทะเล
(2) ระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก (East-West Economic Corridor: EWEC) เป็นเส้นทางเชื่อมโยงเมืองเศรษฐกิจสำคัญระหว่างเวียดนาม สปป.ลาว ไทย และเมียนมา รวมระยะทาง 1,500 กิโลเมตร
(3) ระเบียงเศรษฐกิจตอนใต้ (Southern Economic Corridor: SEC) เป็นเส้นทาง เชื่อมโยงเมืองเศรษฐกิจสำคัญระหว่าง ไทย- กัมพูชา- เวียดนาม รวมไปถึงเมียนมา และเวียดนาม – กัมพูชา และลาว
มี 3 แนวระเบียงเศรษฐกิจสำคัญ ได้แก่
(1) ระเบียงเศรษฐกิจเหนือ-ใต้ (North-South Economic Corridor: NSEC) เป็นเส้นทางหลักเชื่อมโยงประเทศจีนตอนใต้และ สปป.ลาว เพื่อออกสู่ทะเล
(2) ระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก (East-West Economic Corridor: EWEC) เป็นเส้นทางเชื่อมโยงเมืองเศรษฐกิจสำคัญระหว่างเวียดนาม สปป.ลาว ไทย และเมียนมา รวมระยะทาง 1,500 กิโลเมตร
(3) ระเบียงเศรษฐกิจตอนใต้ (Southern Economic Corridor: SEC) เป็นเส้นทาง เชื่อมโยงเมืองเศรษฐกิจสำคัญระหว่าง ไทย- กัมพูชา- เวียดนาม รวมไปถึงเมียนมา และเวียดาม – กัมพูชา และลาว
เป็นกรอบการลงทุนในโครงงานระยะใกล้ซึ่งตรงกับวัตถุประสงค์การพัฒนาของแผนงาน GMS ปัจจุบันดำเนินงานภายใต้กรอบ RIF 2025 ครอบคลุมห้วงปี 2566 – 2568 ประกอบด้วยโครงการ 111 โครงการในทั้ง 6 ประเทศ
ขับเคลื่อนผ่านกลไกการประชุมที่สำคัญดังนี้
การศึกษาเพื่อพัฒนากลไกการขับเคลื่อนแผนงาน GMS อาทิ ยุทธศาสตร์นวัตกรรมเพื่อการพัฒนาของอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง พ.ศ. 2573 ซึ่งจะนำเสนอต่อที่ประชุมสุดยอดผู้นำ GMS ครั้งที่ 8 ในปี 2567 การยกระดับการมีส่วนร่วมของภาคเอกชน รัฐบาลท้องถิ่น และเครือข่ายองค์ความรู้ในแผนงาน GMS
ความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อจัดการประเด็นร่วมระดับอนุภูมิภาคร่วมกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจดิจิทัลและการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ภายใต้การขับเคลื่อนโครงการภายใต้แผนงาน GMS
การส่งเสริมให้เกิดความสอดคล้องและส่งเสริมกันระหว่างแผนงาน GMS ข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทาง กรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง ข้อริเริ่มว่าด้วยการพัฒนาระดับโลก และอาเซียน ตลอดจนโครงการความร่วมมือระดับภูมิภาคและระดับโลกอื่น ๆ